เหตุการณ์สำคัญจากการเคลื่อนไหวนักศึกษาปี 1989

หู เย่าปัง เสียชีวิต

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

หู เย่าปัง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ วัย 73 ปี เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ นักศึกษาจำนวนมากออกมารวมตัวที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อไว้อาลัยและแสดงความไม่พอใจที่การปฏิรูปประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า

หู เย่าปัง ถือได้ว่าเป็นนักปฏิรูปในพรรคคอมมิวนิสต์ และได้รับการยอมรับในหมู่ปัญญาชนและนักศึกษาแนวเสรีนิยม อย่างไรก็ตาม เขาถูกบังคับให้ลาออกในปี 1987

การประท้วงขยายวงกว้าง

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

วันที่ 17 เม.ย. จำนวนผู้ประท้วงในกรุงปักกิ่งเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันคน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและเหรินหมินไปนั่งบริเวณหน้ามหาศาลาประชาคม เพื่อยื่นคำร้องให้รัฐบาลประเมินคุณูปการของ หู เย่าปัง เสียใหม่ และให้รัฐบาลเร่งกระบวนการปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตย จากนั้นการประท้วงก็ค่อย ๆ ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ

วันที่ 19 เม.ย. การนั่งประท้วงเริ่มขึ้นที่หน้าซินหัวเหมิน ซึ่งเป็นประตูหลักทางเข้าทำเนียบรัฐบาล

พิธีรำลึก หู เย่าปัง

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

ทางการจีนจัดพิธีศพให้ หู เย่าปัง นักศึกษาพังรั้วกั้นบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมินเข้าไปยื่นคำร้องขอพูดคุยเจรจากับ หลี่ เผิง นายกรัฐมนตรีจีนในขณะนั้น แต่ถูกปฏิเสธ

มีการประท้วงใหญ่เกิดขึ้นในเมืองซีอานและฉางซา ก่อนจะกลายเป็นจลาจลในที่สุด

ก่อตั้งสหภาพนักศึกษา

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

นักศึกษาจากกว่า 20 มหาวิทยาลัยในกรุงปักกิ่งประกาศว่าพวกเขาจะก่อตั้งสหภาพนักศึกษาชั่วคราว จะชุมนุมต่อเนื่องอย่างไม่มีกำหนดเพื่อประท้วงการเข้าควบคุมข่าวสารของรัฐบาล

บทบรรณาธิการที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง

ลิขสิทธิ์ภาพ People’s Daily

นสพ.พีเพิลส์เดลี ของทางการจีนตีพิมพ์บทบรรณาธิการชื่อ "ความจำเป็นที่ต้องมีจุดยืนชัดเจนต่อความวุ่นวาย" โดยกล่าวหาว่ามีคนไม่กี่คนที่มีวาระซ่อนเร้นและใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือให้เกิดความวุ่นวาย บทความนี้ให้นิยามอย่างเป็นทางการต่อการประท้วงของนักศึกษาว่าเป็น "ความวุ่นวาย" และ "การสมคบคิดที่มีการวางแผนมาแล้ว"

บทบรรณาธิการนี้ทำให้ผู้ประท้วงโกรธแค้นและส่งผลให้มีคนมาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้น

นักศึกษาเรียกร้องให้มีการเจรจา

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

หลังการตีพิมพ์บทบรรณาธิการ นักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการประท้วง มีการปรับโครงสร้างสหภาพนักศึกษาชั่วคราวให้กลายเป็นสหพันธ์นักศึกษาปักกิ่งอิสระ (Beijing Students' Autonomous Federation) นำโดย หวูเอ่อไคชี

องค์การนักศึกษาใหม่นี้ยื่นความต้องการ 3 ประการ และให้มีการพูดคุยเจรจา 7 ครั้ง เรียกร้องให้ทางการยอมรับว่าสหภาพเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้ถอนบทบรรณาธิการเมื่อวันที่ 26 เม.ย.

หยวน มู่ โฆษกคณะรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอื่น ๆ เจรจาพูดคุยกับนักศึกษา 45 คน จาก 16 มหาวิทยาลัยในกรุงปักกิ่ง แต่ผู้นำสหภาพ หวัง ตัน และ หวูเอ่อไคชี ไม่ยอมรับข้อตกลง

สุนทรพจน์ที่โอนอ่อนของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

มีนักศึกษาเข้าร่วมการประท้วงเพิ่มก่อนวันครบรอบ 70 ปี เหตุการณ์การเคลื่อนไหว 4 พ.ค. (การประท้วงของนักศึกษาในปักกิ่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 1) จ้าว จื่อหยาง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในตอนนั้นถูกมองว่าเป็นนักปฏิรูป สนับสนุนให้มีการพูดคุยเจรจากับนักศึกษา เขากล่าวในแถลงการณ์สองครั้งแสดงความเห็นใจนักศึกษา บอกว่าสมเหตุสมผลแล้วที่พวกเขาจะสนใจเรื่องปัญหาการทุจริต

วันพฤหัสบดี นักศึกษามหาวิทยาลัยเดินหน้าไปยังจัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อเผยแพร่ "การประกาศ 4 พ.ค." เรียกร้องให้ประเทศมีประชาธิปไตย

นอกจากในปักกิ่งแล้ว ยังมีนักศึกษาในเซี่ยงไฮ้, นานกิง และ กวางโจว ที่เริ่มเดินประท้วง เรียกร้องให้รัฐบาลหันมาพูดคุยกับนักศึกษา

อดอาหารประท้วง

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย แต่ผู้นำนักศึกษาบางคนยังยืนยันเรียกร้อง ทำให้มีการชุมนุมประท้วงต่อ

นักศึกษาหลายร้อยคน นำโดยผู้นำนักศึกษาอย่าง ไฉ หลิง เริ่มต้นการประท้วงอดอาหารอย่างไม่มีกำหนด สองวันก่อนหน้าที่ผู้นำโซเวียต นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ จะมาเยือนจีน

การเยือนที่น่าอับอาย

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

มิคาอิล กอร์บาชอฟ เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดจีน-โซเวียต เป็นความพยายามที่จะจบความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่ดำเนินยาวนานถึงสามทศวรรษ อย่างไรก็ดี นักศึกษายังยึดจัตุรัสเทียนอันเหมินอยู่ จีนจึงต้องจัดพิธีต้อนรับที่สนามบินแทน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับทางการ

หลังการประชุม จ้าว จื่อหยาง บอกกับสื่อนานาชาติว่า การแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ในจีนยังต้องการการนำของ เติ้ง เสี่ยวผิง อยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเขาแม้จะเกษียณอายุไปแล้ว

นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับหัวหน้านักศึกษา

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

หลี่ เผิง นายกรัฐมนตรีจีนในตอนนั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ยึดมั่นในหลักการ พูดคุยกับ หวัง ตัน, หวูเอ่อไคชี และตัวแทนนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่มหาศาลาประชาคม วันที่ 18 พ.ค. หลี่ เผิง เรียกร้องให้นักศึกษาหยุดประท้วงอดอาหารและออกจากจัตุรัส ฝ่ายนักศึกษาขอให้เปลี่ยนคำในบทบรรณาธิการ นสพ.พีเพิลส์เดลี และให้ยอมรับว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษาเป็น "การเคลื่อนไหวแบบประชาธิปไตยเพื่อชาติ" อย่างไรก็ตาม ทั้งสองไม่สามารถตกลงกันได้

จ้าว จื่อหยาง พบนักศึกษา

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

จ้าว จื่อหยาง สัญญากับนักศึกษาว่า "พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจะไม่มีวันตามแก้แค้น" และขอให้นักศึกษาหยุดประท้วงอดอาหาร แต่นักศึกษาปฏิเสธ

เมื่อการประท้วงทวีความรุนแรงขึ้น จ้าว จื่อหยาง เดินทางไปหานักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมินและเรียกร้องให้หยุดการประท้วงอดอาหารอีก เขาไปที่นั่นพร้อมกับ เวิน เจียเป่า ผู้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา "เราอยู่ที่นี่ แต่มันก็สายไปแล้ว" จ้าว บอกกับผู้ชุมนุม

นี่เป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะครั้งสุดท้ายของ จ้าว จื่อหยาง ด้วย

กองกำลังทหารเคลื่อนพลเข้าไป

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

ทางการจีนประกาศกฎอัยการศึก และกองกำลังทหารจำนวนมากก็ไปประจำการในกรุงปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากล้อมรถถังไว้พร้อมกับสร้างสิ่งกีดขวางบนท้องถนนด้วย

สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

การชุมนุมประท้วงยังดำเนินต่อไป เริ่มมีความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาว่าควรจะปักหลักหรือออกจากจตุรัสเทียนอันเหมิน

ทางการจีนพิจารณาว่าจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารเพื่อไล่ผู้ชุมนุมออกและทวงพื้นที่คืน และยุติความวุ่นวายในเมืองหลวง

"แถลงการณ์อดอาหาร"

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

หลิว เสี่ยวโป อาจารย์มหาวิทยาลัยปักกิ่งนอร์มอล, หาว เด๋อ-เจี้ยน และบุคคลผู้มีชื่อเสียงอีก 2 คน ทำการประท้วงอดอาหารที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อสนับสนุนนักศึกษา โดยบอกว่าจะทำการประท้วงนาน 72 ชั่วโมง

สมาชิกอาวุโสในพรรคคอมมิวนิสต์ลงมติเห็นชอบให้ยุติการชุมนุมประท้วงโดยใช้กำลัง

ค่ำคืนแห่งการนองเลือด

ช่วงค่ำ กองกำลังทหารจำนวนมากพร้อมรถถังและรถหุ้มเกราะเริ่มขับไล่นักศึกษาออกจากพื้นที่ ทหารบางหน่วยเริ่มใช้กระสุนจริง ทำให้พลเรือนที่ไม่ได้พกอาวุธจำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ ทหารบางคนถูกผู้ชุมนุมทำร้ายด้วยเช่นกัน

ความโกรธเกรี้ยวและความตกตะลึง

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

หลังจากค่ำคืนแห่งการนองเลือด ทางการจีนยึดจัตุรัสเทียนอันเหมินคืนได้ ยังมีเสียงปืนเป็นครั้งคราวตลอดวัน ถึงทุกวันนี้ ยังไม่แน่ชัดว่ามีผู้เสียชีวิตกี่รายกันแน่เนื่องจากรัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้อง

มีการชุมนุมประท้วงใหญ่ต่อเหตุการณ์นี้ในหลายเมืองในจีน รวมถึงที่ฮ่องกง และมาเก๊า ด้วย

การอพยพหนีภัย

ลิขสิทธิ์ภาพ Getty Images

รัฐบาลจีนออกหมายจับผู้นำนักศึกษา 21 คน นักศึกษาหลายคนลี้ภัยผ่านปฏิบัติการช่วยเหลือในฮ่องกงที่มีชื่อว่า Operation Yellow Bird